นวัตกรรมเสริม
ศักยภาพการปลูก
เทคโนโลยีปรับสมดุล pH อัตโนมัติ เพื่อการเจริญเติบโตของพืชที่มั่นคง เข้าถึงธาตุอาหารได้สูงสุด ลดขั้นตอนยุ่งยากในการจัดการ, pH AutoPerfect® พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกได้อย่างง่ายดาย แม่นยำ และมีเสถียรภาพ ด้วยเทคโนโลยีปรับสมดุล pH อัตโนมัติ ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับทุกรูปแบบการปลูก
- ควบคุมค่า pH อย่างต่อเนื่อง ลดความผันผวนที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช
- เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมธาตุอาหาร ช่วยให้ใช้ปุ๋ยน้อยลงแต่ได้ผลผลิตมากขึ้น
- ปลอดภัยกับพืชทุกชนิด ไม่มีการเปลี่ยนแปลง pH อย่างรวดเร็วที่อาจทำให้พืชช็อก
- ลดภาระในการจัดการ ไม่ต้องวัดค่า pH ซ้ำบ่อย ลดโอกาสผิดพลาดจากการคำนวณ
- เหมาะกับทุกระบบการเพาะปลูก ทั้งไฮโดรโพนิกส์ การปลูกในดิน โรงเรือน และฟาร์มเชิงพาณิชย์
pH คงที่นานสูงสุด
pH AutoPerfect® นวัตกรรมการปรับสมดุล pH อัตโนมัติ เพื่อยกระดับการเกษตรสมัยใหม่
เกษตรกรรมยุคใหม่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ซับซ้อนมากขึ้น ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความต้องการผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมาตรฐานคุณภาพที่เข้มงวดจากทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ การบริหารจัดการสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่เกษตรกรไม่อาจละเลย
หนึ่งในองค์ประกอบพื้นฐานที่ส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของพืช คือ ค่า pH ของดิน วัสดุปลูก และน้ำ การควบคุมค่า pH ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแรง เพิ่มผลผลิต และยกระดับคุณภาพให้ตอบโจทย์ตลาดระดับสูง
ด้วยความเข้าใจเชิงลึกในประเด็นนี้ คิงเวล (KINGWHALE) จึงได้พัฒนา pH AutoPerfect® ในปุ๋ยซีรี่ย์ PROGRADE® นวัตกรรมล่าสุดที่ผสานเทคโนโลยีควบคุมค่า pH แบบอัตโนมัติเพื่อให้การจัดการ pH เป็นเรื่องง่าย แม่นยำ และยั่งยืน รองรับระบบการเพาะปลูกทุกรูปแบบ พร้อมตอบโจทย์เกษตรกรรมยุคใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพ ความสะดวก และผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ค่า pH โดยทั่วไปคืออะไร?
ค่า pH หรือ “Potential of Hydrogen” คือค่าที่ใช้วัดระดับความเป็นกรดหรือด่างของสารละลาย โดยมีช่วงตั้งแต่ 0 ถึง 14
- pH = 7 คือ กลาง เช่น น้ำบริสุทธิ์
- pH < 7 คือ กรด เช่น น้ำส้มสายชู
- pH > 7 คือ ด่าง เช่น น้ำปูนใส
ในแง่เกษตรกรรม ค่า pH ส่งผลต่อความสามารถของพืชในการดูดซึมธาตุอาหาร หากค่าผิดไปจากช่วงที่เหมาะสม แม้จะใส่ปุ๋ยมากแค่ไหน พืชก็อาจดูดซึมได้ไม่เต็มที่
วิธีตรวจสอบค่า pH เบื้องต้น
การวัดค่า pH ในน้ำ
การวัดค่า pH ในน้ำ เช่น น้ำในถังผสมปุ๋ย หรือน้ำในระบบไฮโดรโพนิกส์ ทำได้ง่ายด้วยเครื่องมือพื้นฐาน เช่น
- ปากกาวัด pH (pH meter แบบดิจิทัล): จุ่มหัววัดลงในน้ำที่ต้องการตรวจสอบ รอจนค่าคงที่ เครื่องจะแสดงค่าบนหน้าจอ
- กระดาษลิตมัส/แถบทดสอบ: เหมาะกับงานทั่วไป เปลี่ยนสีตามค่ากรด-ด่าง ใช้เปรียบเทียบกับตารางสีมาตรฐาน
คำแนะนำ: ควรล้างหัววัดด้วยน้ำกลั่น หรือน้ำยา KCL หลังใช้งานทุกครั้ง และสอบเทียบค่า (calibrate) เป็นระยะ เพื่อให้การวัดแม่นยำ
การวัดค่า pH ในดินหรือวัสดุปลูก
การวัด pH ในดินหรือวัสดุปลูก มีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความละเอียดที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น:
1. ใช้ชุดทดสอบแบบหยด (Soil Test Kit)
- ผสมดินกับน้ำตามสัดส่วนที่ระบุในชุดทดสอบ
- เขย่าให้เข้ากัน แล้วหยดสารทดสอบ สีที่เปลี่ยนจะบอกค่ากรด-ด่างของดิน
2. ใช้เครื่องวัด pH ดินแบบเสียบ (Soil pH Meter)
- เสียบหัววัดลงในดินที่ชื้นระดับหนึ่ง
- เครื่องจะแสดงค่าบนหน้าจอ
หมายเหตุ: ดินควรมีความชื้นพอสมควร ไม่แห้งหรือเปียกเกินไป เพราะจะมีผลต่อความแม่นยำ
ความสำคัญของค่า pH ต่อพืช
- ค่า pH ที่เหมาะสมจะช่วยให้ธาตุอาหารสำคัญ เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), โพแทสเซียม (K), แคลเซียม (Ca), แมกนีเซียม (Mg) และเหล็ก (Fe) อยู่ในรูปที่พืชสามารถดูดซึมได้ง่าย
- ค่า pH ที่เหมาะสมส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ที่มีบทบาทในการย่อยสลายอินทรียวัตถุและปลดปล่อยธาตุอาหารให้กับพืช
- การที่พืชได้รับธาตุอาหารครบถ้วนจะส่งผลให้ระบบรากแข็งแรง ต้านทานโรคได้ดี และให้ผลผลิตสูง
ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืชโดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 5.5 – 6.5 ซึ่งเอื้อต่อการละลายและการดูดซึมธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต
หากค่า pH เบี่ยงเบนออกจากช่วงที่เหมาะสม อาจส่งผลต่อการละลายและการดูดซึมของธาตุอาหาร เช่น
pH ต่ำเกินไป อาจทำให้ธาตุอาหารบางชนิดถูกชะล้างออก หรืออยู่ในรูปที่เป็นพิษต่อพืช
pH สูงเกินไป อาจทำให้การละลายของธาตุอาหารบางชนิดลดลง ส่งผลให้พืชได้รับธาตุอาหารไม่เพียงพอ
ตารางการเปรียบเทียบ
| ค่า pH | ผลกระทบต่อพืช |
| ต่ำกว่า 5.5 (กรดจัด) | พืชอาจได้รับธาตุอลูมิเนียมและเหล็กในระดับที่เป็นพิษ รากเจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ |
| 5.5 – 6.5 (เหมาะสม) | การดูดซึมธาตุอาหารสูงสุด พืชเจริญเติบโตแข็งแรง |
| สูงกว่า 7.5 (ด่างจัด) | การดูดซึมฟอสฟอรัส เหล็ก และสังกะสีลดลง พืชแสดงอาการขาดธาตุอาหาร |
ดังนั้น การรักษาสมดุลของค่า pH จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างมีประสิทธิภาพ
ค่า pH ที่เหมาะสมต่อธาตุอาหารแต่ละชนิด ต่อการดูดซึมของระบบราก
สรุป
- พืชส่วนใหญ่ต้องการค่า pH ของดิน อยู่ในช่วง 5.5 – 7.5 เพื่อการดูดซึมธาตุอาหารที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- ค่า pH ที่ต่ำกว่า 5.5 (ดินกรดจัด) จะทำให้ธาตุอาหารบางชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม สูญเสียไปกับน้ำ
- ค่า pH ที่สูงกว่า 7.5 (ดินด่างจัด) จะทำให้ธาตุเหล็ก แมงกานีส สังกะสี และทองแดง ตกตะกอนในดิน ทำให้พืชขาดสารอาหาร
- ธาตุอาหารที่ดูดซึมได้ดีที่สุดในสภาพดินที่เป็นกลางถึงด่างเล็กน้อย ได้แก่ โมลิบดีนัม แคลเซียม และแมกนีเซียม
- การควบคุม pH อย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตอย่างยั่งยืน
| ธาตุอาหาร | ช่วง pH ที่ดูดซึมได้ดี (โดยประมาณ) | หมายเหตุเพิ่มเติม |
| ไนโตรเจน (N) | 5.5 – 7.5 | การดูดซึมไนโตรเจนอยู่ในช่วงกว้าง แต่ถ้า pH ต่ำกว่า 5.5 จะลดการเปลี่ยนรูปไนโตรเจนในดิน |
| ฟอสฟอรัส (P) | 6.0 – 7.5 | ฟอสฟอรัสดูดซึมดีที่สุดในดินที่เป็นกรดอ่อนถึงกลาง ดินด่างทำให้ฟอสฟอรัสจับตัวแน่น ไม่ละลาย |
| โพแทสเซียม (K) | 5.5 – 8.0 | โพแทสเซียมสามารถดูดซึมได้ดีในหลายช่วง pH แต่ถ้า pH ต่ำเกินไปจะเกิดการชะล้างสูญเสียง่าย |
| กำมะถัน (S) | 5.5 – 9.0 | กำมะถันมีความเสถียรในหลายช่วง pH แต่การดูดซึมจะสูงสุดที่ดินเป็นกลางถึงด่างเล็กน้อย |
| แคลเซียม (Ca) | 6.5 – 8.5 | แคลเซียมดูดซึมได้ดีในดินเป็นกลางถึงด่าง หาก pH ต่ำเกินไป แคลเซียมจะถูกชะล้างและพืชขาดแคลน |
| แมกนีเซียม (Mg) | 6.5 – 8.5 | คล้ายแคลเซียม ต้องการสภาพดินที่ไม่เป็นกรดจัด เพื่อการดูดซึมที่มีประสิทธิภาพ |
| เหล็ก (Fe) | 4.5 – 6.5 | เหล็กดูดซึมดีที่สุดในดินที่มีความเป็นกรด หาก pH สูงเกินไป เหล็กจะตกตะกอนและพืชขาดธาตุนี้ |
| แมงกานีส (Mn) | 5.0 – 6.5 | แมงกานีสดูดซึมได้ดีในสภาพดินกรด หากดินเป็นด่างจะทำให้แมงกานีสไม่ละลายน้ำ |
| โบรอน (B) | 5.0 – 7.5 | โบรอนดูดซึมได้ดีในช่วง pH กว้าง แต่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลง pH หาก pH สูงเกิน 7.5 การดูดซึมจะลดลง |
| ทองแดงและสังกะสี (Cu, Zn) | 5.0 – 7.0 | ธาตุทองแดงและสังกะสีดูดซึมดีในดินกรดเล็กน้อย หาก pH สูงมากจะตกตะกอนและเป็นอันตรายต่อการดูดซึม |
| โมลิบดีนัม (Mo) | 6.5 – 9.5 | โมลิบดีนัมแตกต่างจากธาตุอื่น โดยจะดูดซึมได้ดีในดินที่เป็นกลางไปจนถึงด่าง |
แนวทางการใช้งาน pH AutoPerfect®
การใช้งานในดิน หรือวัสดุปลูก
- ละลายปุ๋ย KINGWHALE PROGRADE® ตามอัตราส่วนที่แนะนำ
- รดปุ๋ยน้ำให้ทั่วทั้งดินจนน้ำไหลออกก้นกระถางเล็กน้อย
- น้ำของปุ๋ยคิงเวลจะช่วย ปรับค่าความเป็นกรด-ด่างในดินให้เหมาะสมในระดับที่พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีที่สุด
การใช้งานในระบบไฮโดรโพนิกส์ (Hydroponics)
- ละลายปุ๋ย KINGWHALE PROGRADE ตามอัตราส่วนที่แนะนำ
- ปุ๋ยคิงเวลจะช่วยคงระดับ pH ของน้ำที่ใช้ปลูกให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ช่วยควบคุมค่า pH ให้นิ่ง ไม่แกว่ง ไม่ต้องวัดซ้ำทุกวัน
นอกจากการช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างมีนัยสำคัญแล้ว การใช้เทคโนโลยี pH AutoPerfect® ยังมีข้อดีในเชิงเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
- ลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยและสารปรับ pH อื่น ๆ
- ลดความเสี่ยงจากการเกิดปัญหาพืชโตช้า หรือผลผลิตต่ำ
- สนับสนุนการทำเกษตรแบบยั่งยืน ลดการชะล้างและปนเปื้อนของสารเคมีในแหล่งน้ำธรรมชาติ
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของเกษตรกรในตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
pH AutoPerfect® จากคิงเวล (KINGWHALE) คือก้าวสำคัญของนวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่ ที่ผสานองค์ความรู้ด้านเคมี เทคโนโลยี และความเข้าใจเชิงลึกต่อระบบการผลิตพืช เพื่อส่งมอบเครื่องมืออัจฉริยะที่ช่วยเกษตรกรลดขั้นตอนซับซ้อน เพิ่มความมั่นคงในการผลิต และขับเคลื่อนสู่เกษตรกรรมที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง
หากคุณกำลังมองหาโซลูชันที่จะทำให้การเพาะปลูกง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้น และให้ผลผลิตที่ดีกว่าเดิม คิงเวล (KINGWHALE) pH AutoPerfect® คือคำตอบที่คุณวางใจได้
ขอรับราคาโปรโมชั่นฟาร์ม
หากคุณต้องการทราบรายละเอียดและขอรับราคาโปรโมชั่นสำหรับฟาร์ม กรุณาติดต่อทีมงานของเราโดยตรง เพื่อรับข้อเสนอพิเศษที่เหมาะกับความต้องการของคุณ
